ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ดิอะเมซิ่งเรซ 18

ดิ อะเมซิ่ง เรซ 18 (อังกฤษ: The Amazing Race 18) เป็นฤดูกาลที่ 18 ของรายการ ดิ อะเมซิ่ง เรซ ซึ่งเป็นเกมโชว์ประเภทเรียลลิตี้โชว์ระดับรางวัลเอ็มมี 8 สมัยซ้อนทางโทรทัศน์ รายการนี้จะมีผู้เข้าแข่งขันเป็นทีมๆ ละ 2 คนซึ่งรู้จักกันมาก่อนแล้ว ทำการแข่งขันโดยเดินทางรอบโลก โดยทีมที่ชนะจะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเกมส์โชว์ดังกล่าวเริ่มออกอากาศในสหรัฐอเมริกาทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ในฤดูกาลนี้ทำลักษณะแบบ ทีมรวมดารา โดยเอาทีมต่างๆ จากฤดูกาลที่ 12-17 มาแข่งขันกันใหม่ จากฤดูกาลที่ 11 ใช้ชื่อว่า The Amazing Race : All-Stars (ดิ อะเมซิ่ง เรซ รวมดารา) แต่ในฤดูกาลนี้จะใช้ชื่อว่า The Amazing Race : Unfinished Business (ดิ อะเมซิ่ง เรซ ธุรกิจนี้ยังสะสางไม่เสร็จ) ซึ่งซีบีเอสได้โปรโมทฤดูกาลนี้ทันที โดยอยู่ภายในตอนสุดท้ายของฤดูกาลที่ 17 เลยและรวมถึงฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลแรกที่จะถ่ายทำในระบบโทรทัศน์ความละเอียดสูงอีกด้วย แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ารายการนี้ถ่ายทำยากมาก เนื่องจากช่างกล้องจะต้องวิ่งตามผู้เข้าแข่งขันตลอดและภาพบางภาพในรายการใช้การตัดต่อหรือดึงภาพจากแฟ้มข้อมูลที่เคยมีไว้มาตัดต่อลงไปทำให้อาจมีภาพแบบขนาดความละเอียดมาตรฐานปนอยู่บ้าง โดยทางผู้ผลิตได้กล่าววาจะจัดการปัญหาตรงจุดนี้ให้เหมาะสมอย่างสมดุลและออกอากาศในแบบโทรทัศน์ความละเอียดสูงอย่างแน่นอน

และจะมีการจัดฉลองการครบรอบ 10 ปีของรายการซึ่งในการจัดงานครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากเครื่องดื่มชาสแนปเปิล โดยจะทำการจัดงานวันที่ 8 พฤษภาคม 2554 (ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 ของประเทศไทย) รวมถึงการออกอากาศตอนสุดท้ายของฤดูกาลนี้ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 (ตรงกับวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ของประเทศไทย) ด้วยความยาว 2 ชั่วโมงเป็น 2 เลกสุดท้ายติดต่อกันเนื่องจากเคยมีการหยุดฉายไป 1 สัปดาห์ที่ทางสถานีได้ถ่ายทอดสด คันทรี มิวสิก อาวอร์ด

คู่พี่น้องจากฤดูกาลที่ 14 คิชากับเจน ซึ่งได้ลำดับที่ 4 ในฤดูกาลนั้น เป็นผู้ชนะการแข่งขันครั้งนี้ไปรวมถึงทั้งคู่ยังเป็นทีมหญิงล้วนคู่ที่สองที่ชนะรายการนี้อีกด้วย

ดิ อะเมซิ่ง เรซ 18 ใช้เวลาถ่ายทำ 23 วันและจะเป็นฤดูกาลแรกของเวอร์ชันอเมริกาที่จะถ่ายทำและออกอากาศในระบบโทรทัศน์ความละเอียดสูง ในขณะที่หลายๆ รายการในช่วงพรามไทม์ได้เปลี่ยนการออกอากาศเป็นโทรทัศน์ความละเอียดสูงแล้ว ดิ อะเมซิ่ง เรซ ยังคงใช้โทรทัศน์ความละเอียดมาตรฐานอยู่ เนื่องจากปัญหาหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นด้านค่าใช้จ่ายหรือแม้กระทั่งความยากลำบากในการถ่ายทำและภาพที่อยู่ในแฟ้มภาพไม่ได้เป็น HD จึงใช้เวลาเป็นอันมากกว่าจะสามารถทำให้เป็นระบบ HD ได้ อย่างไรก็ตามถึงจะช้าไปบ้างนี่ก็จะเป็นฤดูกาลแรกของ ดิ อะเมซิ่ง เรซ ที่จะออกอากาศในระบบโทรทัศน์ความละเอียดสูง

การถ่ายทำเริ่มต้นในวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ทุ่งกังหันลมซาน จอร์โกนิโอ ใกล้กับเมืองปาล์มสปริง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอุปสรรคแรกของเกมคือการที่จะต้องค้นหาเครื่องร่อนกระดาษที่มีคำว่า "Queensland and Northern Territory Aerial Services" หรือชื่อเต็มของสายการบินแคนตัส ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนตั๋วเครื่องบินให้กับผู้เข้าแข่งขันไปสู่จุดหมายปลายทางแรกคือนครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย. โดยผู้เข้าแข่งขันได้ถูกพบที่โอเชี่ยนเวิลด์ ในเมืองแมนลี่ ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญใกล้เคียงกับนครซิดนีย์ในช่วงวันที่ 22 พฤษศจิกายน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการพบผู้เข้าแข่งขันในประเทศอื่น ๆ เช่นโยะโกะฮะมะ, ญี่ปุ่น ที่ทีมผู้เข้าแข่งขันได้ถูกพบว่ายน้ำเย็นจัดใกล้เคียงกับภูเขาไฟฟูจิ และการไปเยือนประเทศ ลิกเตนสไตน์ ครั้งแรกของรายการ โดยผู้เข้าแข่งขันต้องทำการวัดความยาวอาณาบริเวณของประเทศโดยรถจักรยานไฟฟ้า และทีมยังไปเยือนเมืองลี่เจียงและคุนหมิงของประเทศจีน, โกลกาตาและพาราณสีของประเทศอินเดีย, เวียนนาของประเทศออสเตรีย, เซอร์แมทของประเทศสวิตเซอร์แลนด์และรีโอเดจาเนโรของประเทศบราซิล

ฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ไม่มีบทลงโทษสำหรับทีมที่เข้ามาเป็นลำดับสุดท้ายแต่ไม่ถูกคัดออก โดยกติกานี้มีใช้ในฤดูกาลที่ 1-4 เท่านั้น หลังจากนั้นเป็นต้นมาทุกทีมที่เข้ามาเป็นลำดับสุดท้ายแต่ไม่โดนคัดออกจะมีบทลงโทษเสมอๆ แต่ในฤดูกาลนี้มีสิ่งที่แตกต่างออกไป 3 อย่างคือ

ฤดูกาลนี้ทางซีบีเอสได้นำวิดีโอ "สถานีคนคัดออก" ออกไปจากเว็บไซด์ซึ่งจะเป็นการไม่ได้ถ่ายให้เห็นว่าทีมที่ถูกคัดออกไปแล้วทำอะไรกันอยู่และถูกส่งไปยังบ้านพักที่ประเทศใด แต่ได้เปลี่ยนเป็น "วิดีโอบันทึกประจำวัน" ของพิธีกร ฟิล คีโอแกน แทน

ตารางแสดงชื่อ ความสัมพันธ์ของผู้แข่งขันในขณะถ่ายทำของแต่ละทีมพร้อมทั้งแสดงสถานะในการแข่งขัน ดังนี้ เรียงตามลำดับผู้เข้าเส้นชัยก่อน (ตารางนี้อาจไม่ได้แสดงข้อมูลที่ตรงกับข้อมูลที่ออกอากาศในโทรทัศน์เนื่องจากข้อมูลที่เพิ่มเข้ามาบางส่วน หรือข้อมูลที่ถูกนำออกไปบางส่วน)

หมายเหตุ 1: เมื่อเข้าจุดเช็คในเลกที่ 1, และ 4 นี้ทีมได้รับคำใบจากพิธีกรและแข่งต่อไปทันทีโดยไม่มีการหยุดพัก ทำให้กลายเป็นว่าทีมที่เข้ามาเป็นลำดับสุดท้ายก็ไม่มีบทลงโทษหมายเหตุ 2: อแมนด้ากับคริส โดนทำโทษสั่งย้อนกลับอัตโนมัติเนื่องจากทำภารกิจแรกที่จุดเริ่มต้นเสร็จเป็นทีมสุดท้าย โดยมีภารกิจทางแยกครั้งแรกเกิดขึ้นในเลกที่ 2 ทำให้ทีมต้องทำงานทางแยกทั้ง 2 งานของเลกหมายเหตุ 3: เดิมทีแล้ว ไฟลท์ไทม์กับบิ๊กอีซี่ มาถึงเป็นทีมอันดับที่ 3 แต่ถูกปรับเวลา 30 นาทีเนื่องจากไปเคื่อนย้ายกระเป๋าสัมภาระของรอนกับคริสติน่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้พวกเขาตกลงไปเป็นทีมอันดับที่ 5 ส่วนรอนกับคริสติน่าและคิชากับเจนที่เดิมมาถึงเป็นทีมอันดับที่ 4 และ 5 ตามลำดับ เนื่องจากการถูกปรับเวลาของไฟลท์ไทม์กับบิ๊กอีซี่เป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ทำให้รอนกับคริสติน่าเข้ามาเป็นอันดับ 3 และคิชากับเจนเข้ามาเป็นอันดับ 4หมายเหตุ 4: เมลกับไมค์ไม่สามารถทำภารกิจทางแยกต่อไปได้ เนื่องจากพวกเขามีความเสี่ยงจะเป็นโรคหนาวตาย จึงต้องการการดูแลทางแพทย์ หลังจากทำภารกิจหากบ ทำให้ทีมของเจมี่กับคาร่าที่ตามหลังมา สามารถเข้าจุดหยุดพักในอันดับ 9 ซึ่งหมายความว่าพวกเขาถูกคัดออกหมายเหตุ 5: เคนท์กับวิกซินหลงทางภายในประเทศญี่ปุ่น และไม่สามารถหาทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะเพื่อเดินทางออกไปยังท่าอากาศยานนานาชาติคุนหมิงวูเจี๋ยบาที่เมืองคุนหมิง ซึ่งจะต้องใช้เครื่องบินที่จัดให้ตามที่คำใบ้สั่งไว้ จึงโดนทำโทษเป็นเวลา 30 นาทีแต่เนื่องจากในเลกที่ 4 ไปสู่เลกที่ 5 นั้นไม่มีการหยุดพัก โทษปรับเวลานี้จึงไปบวกเพิ่มตอนจบในเลกที่ 5 แทน ซึ่งในเลกที่ 5 เคนท์กับวิกซินเดิมทีแล้วมาถึงเป็นลำดับที่ 4 แต่เนื่องจากถูกทำโทษเป็นเวลา 30 นาที คิช่ากับเจนมาถึงจุดหยุดพักในระหว่างที่พวกเขาถูกปรับเวลาอยู่ จึงตกลงมาอยู่ลำดับที่ 5หมายเหตุ 6: เดิมทีแล้ว เคนท์กับวิกซิน มาถึงเป็นลำดับที่ 3 แต่ถูกปรับเวลา 30 นาทีเนื่องจากนั่งรถแท็กซี่แทนที่จะเดินมายังจุดหยุดพักจากภารกิจอุปสรรคตามที่คำใบ้ที่บอกไว้ ทีมที่เหลืออีกสองทีม นั่นก็คือ แกรี่กับมอลลารี่และเซฟกับจัสติน มาถึงจุดหยุดพักระหว่างเวลาที่ถูกทำโทษ ทำให้เคนท์กับวิกซินถูกคัดออกก่อนที่เวลาทำโทษ 30 นาทีจะหมดลงหมายเหตุ 7: เลก 11 และ 12 ออกอากาศติดกันเป็น 2 ชั่วโมงสุดท้าย

ในบางเลก ทางรายการจะมีรางวัลให้กับผู้เข้าแข่งขัน ที่สามารถเข้าเส้นชัยได้เป็นทีมแรก สำหรับแพ็กเกจทัวร์ทั้งหมดสนับสนุนโดยแทรเวโลซิตี้

ในอุปสรรคแรกของการแข่งขัน สมาชิกคนหนึ่งของทีมจะต้องลงไปหาเข็มทิศขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่มีสัตว์อยู่มากมาย เช่น ฉลามและปลากระเบนของแมนลี่โอเชี่ยนเวิลด์ และใช้เข็มทิศนั้นถอดรหัสจากธงที่ติดอยู่ภายนอกของโอเชี่ยนเวิลด์ ซึ่งต้องนำรหัสไปบอกกับหัวหน้าสมาคมแล่นเรือใบแมนลี่ว่า "I am between the Devil and the deep blue sea" (ฉันอยู่ระหว่างมารร้ายและก้นทะเลลึก - หมายความว่า "หนีเสือปะจระเข้" ในภาษาไทย) ก่อนจะได้คำใบ้ต่อไปจากหัวหน้าสมาคม

ทางแยกสำหรับเลกแรกนั้น ทีมจะต้องเลือกระหว่างภารกิจที่เน้นไปถึงศิลปะแบบท้องถิ่นของชนเผ่าอะบอริจิน คื่อโลกวิญญาณ (Spirit World) กับโลกธรรมชาติ (Natural World) โดยทีมที่เลือกโลกวิญญาณ จะต้องสร้างผลงานโมเสคที่แสดงถึงลักษณะภูมิประเทศท้องถิ่นซึ่งใช้ก้อนหินแบบต่างๆ โดยยึดตามแบบที่มีให้ เมื่อทีมเรียงก้อนหินสร้างเรียบร้อยแล้ว ทีมจะต้องเต้นแบบท้องถิ่นบนผลงานโมเสคเพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากผู้อาวุโสในชนเผ่าอะบอริจิน ส่วนทีมที่เลือกโลกธรรมชาติ จะต้องสร้างภาพวาดท้องถิ่น โดยพ่นน้ำที่ผสมกับเม็ดดินเหนียวที่อยู่ในปาก เพื่อสร้างรูปที่กำหนดให้บนแผ่นหินดินดาน เมื่อทีมสร้างภาพเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากผู้อาวุโสในชนเผ่าอะบอริจิน

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกหนึ่งคนจะต้องแต่งตัวเป็นนักรบซามูไร และปฏิบัติพิธีกรรมการฝึกประลองม้าแบบท้องถิ่น รวมถึงเทคนิคในการยิงเป้าจากคันศรขณะนั่งอยู่บนม้าไม้ ต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ โดยเริ่มจากการสังเกตการสาธิตให้ดู จากนั้นจึงเรียนรู้พิธีกรรม (Form) และแสดงต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ เมื่อพวกเขาแสดงได้อย่างถูกต้องแล้ว พวกเขาจะต้องลองแสดงท่าทางการยิงศรจากคันศร และขึ้นขี่บนม้าไม้ที่หมุนได้และยิงศรให้โดนแผ่นกระดานไม้ เพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากผู้เชี่ยวชาญ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างคำอธิษฐานอันบริสุทธิ์ (Prayer of Purity) กับกบนำโชค (Luck of Frog) โดยทีมที่เลือกคำอธิษฐานอันบริสุทธิ์ จะต้องเข้าร่วมในประเพณีของศาสนาชินโต เพื่อกระทำเพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ โดยเริ่มจากการแต่งกายในชุดท้องถิ่น และเรียนรู้คำอธิษฐานที่เกี่ยวข้องทั้งเสียงและร่างกาย จากนั้นพวกเขาจะต้องยืนอยู่บนยอดของน้ำตกอุณหภูมิ 45 องศาฟาเรนไฮต์ (7 องศาเซลเซียส) ข้างหลังภูเขาฟูจิเป็นเวลา 1 นาทีเพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากครูฝึก ส่วนทีมที่เลือกกบนำโชค จะต้องถอดให้เหลือชุดคล้ายชุดชั้นใน และลงไปในบึงโคลน ขณะที่คนท้องถิ่นปาโคลนใส่ซึ่งกันและกัน ทีมจะต้องหาของเล่นกบสีเขียวที่อยู่ในโคลน เพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากครูฝึก

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องค้นหาเครื่องรางของขลัง 12 สิ่งที่มีรูปสัตว์ตามสัญลักษณ์ปีนักษัตรจีนอันได้แก่ หนู (ชวด), วัว (ฉลู), เสือ (ขาล), กระต่าย (เถาะ), มังกร (มะโรง), งู (มะเส็ง), ม้า (มะเมีย), แพะ (มะแม), ลิง (วอก), ไก่ (ระกา), สุนัข (จอ) และหมู (กุน) จากเครื่องรางกว่า 10,000 อัน เมื่อสมาชิกสามารถหาเครื่องรางครบทั้ง 12 อัน สมาชิกจะต้องนำเครื่องรางทั้งหมดมาเรียงเป็นโมบายให้เป็นตำแหน่งที่ถูกต้อง จึงจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากพระ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่าง ค้อน (Hammer) กับ แตร (Horn) โดยทีมที่เลือกค้อน จะต้องเดินทางไปยังร้านขายลูกกวาด ซึ่งทีมจะต้องใช้ค้อนไม้ทำขนมลูกกวาดแบบท้องถิ่น เมื่อทีมทุบจนได้ขนมที่ถูกต้องและความคงเส้นคงวา พวกเขาจะต้องตัดเป็นชิ้นใส่กล่อง ก่อนที่คนขายลูกกวาดจะมอบคำใบ้ต่อไปแก่ทีม ส่วนทีมที่เลือกแตร จะต้องเดินทางไปยังจัตุรัส ที่ทีมจะต้องหยิบแตรยักษ์แบบท้องถิ่น และนำคณะนักเต้นชนเผ่านาคีเดืนทางข้ามเมือง ไปยังปราสาทเพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าหญิง

สำหรับทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างให้เกียรติอดีต (Honor the Past) กับโอบกอดอนาคต (Embrace the Future) โดยทีมที่เลือกให้เกียรติอดีต จะต้องเดินทางไปยังโรงหอภาพยนตร์จีน แล้วสวมชุดแบบธิเบตท้องถิ่น แล้วสวมการแสดงในโรง โดยไม่ได้รับอนุญาตให้จดบันทึกใดๆ ทั้งสิ้น จากนั้นทีมจะต้องออกไปจากบริเวณเวที เพื่อจัดเรียงตุ๊กตาทั้ง 15 ตัวที่อยู่ในกล่องและแต่งตัวตามนักแสดงบนเวที ให้เป็นไปตามลำดับการยืนเป็นครึ่งวงกลมให้ถูกต้อง แล้วทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป แต่ถ้าเรียงไม่ถูกต้อง ทีมจะต้องเริ่มเรียงใหม่ทั้งหมด ส่วนทีมที่เลือกโอบกอดอนาคต จะต้องเดินทางไปยังบริษัทหุ้นส่วนทรัพย์สินกำแพงเมืองจีน โดยทีมจะต้องสวมอุปกรณ์นิรภัย แล้วขนกล่องหนักทั้ง 3 กล่องที่ตั้งข้างรถบรรทุกขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า แล้วแกะกล่องเพื่อจัดเรียงระบบพลังน้ำแสงอาทิตย์โดยใช้ท่อ 18 ท่อก่อนที่ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรค จะต้องต่อชิ้นส่วนโมเดลที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณ ให้เป็นไดโลโฟซอรัสจำลองขนาดจริง (ยาวประมาณ 6.1 เมตร) ซึ่งมีบันไดสูงช่วยในการต่อ โดยนักบรรพชีวินวิทยาอาจจะบอกให้สมาชิกต่อชิ้นส่วนใหม่ เมื่อเขาเห็นว่าลักษณะทางโครงสร้างของโมเดลไดโนเสาร์ไม่ปลอดภัย เมื่อสมาชิกสามารถต่อประกอบชิ้นส่วนของโมเดลไดโลโฟซอรัสได้อย่างถูกต้องแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรคจะต้องเข้าร่วมในพิธีการชิมชาของอินเดีย โดยเริ่มแรกนั้น พวกเขาจะต้องนำผลมะละกอ มะม่วงและจานรองชาที่ทีมได้รับก่อนที่จะออกมาจากเมืองคุนหมิง มาให้กับผู้เชี่ยวชาญชา จากนั้น สมาชิกจะต้องหาถ้วยชาที่มีน้ำชาที่ผสมมาจากมะละกอและมะม่วงเหมือนที่ทีมได้ชิมมาจากเมืองคุนหมิง ท่ามกลางถ้วยชากว่าร้อยๆใบ เมื่อสมาชิกหาชาที่ถูกต้องได้ ผู้เชี่ยวชาญจะมองที่บริเวณก้นถ้วย ถ้าหากตรงกับในหนังสือ เขาจะมอบคำใบ้ต่อไปแก่ทีม แต่ถ้าสมาชิกยกถ้วยมาไม่ถูกต้อง ขาจะบอกให้ไปหามาใหม่ (หลายๆทีมเลือกใช้วิธีการดมกลิ่นมะม่วงและมะละกอ) ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างศิลปะฮินดู (Hindu Art) กับวรรณกรรมเบงกอล (Bengali Literature) โดยทีมที่เลือกศิลปะฮินดู จะต้องเดินทางไปยังร้านรูปปั้นราคาล พอลและลูกชาย (Rakhal Paul and Sons Statue Shop) เพื่อระบายสีและสวมเครื่องแต่งกายให้กับรูปปั้นเทพฮินดู นั่นก็คือพระพิฆเนศวร พร้อมกับสุนัข เมื่อทีมระบายสีและสวมชุดให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไป ส่วนทีมที่เลือกวรรณกรรมเบงกอล จะต้องเดินทางไปยังสำนักพิมพ์เดอะเดย์ และหยิบกองหนังสือเด็กสอนภาษาเบงกอล "Introduction to the Bengali Alphabet" จำนวน 8 กองไปยังรถโรงเรียน 3 ล้อและเดินทางข้ามเมืองไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายและมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย และค้นหาห้องสำนักงานของอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนประถม ที่พวกเขาจะขนส่งหนังสือและได้รับคำใบ้ต่อไปจากคุณครู

สำหรับอุปสรรคของเลกนี้ สมาชิกที่ทำอุปสรรค จะต้องค้นหาพราหมณ์ทั้ง 6 คนที่อ้างอิงได้จากรูปถ่ายทั้งหกรูปที่ได้รับมาพร้อมกับคำใบ้ ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับแผงตองกา โดยพราหมณ์แต่ละคนจะมีหนึ่งในหกส่วนของประโยค (เป็นความหมายของชีวิต ตามที่คำใบ้ในภารกิจอุปสรรคได้บอกเอาไว้) ได้แก่ Once, you're over, the, hill you, pick และ up speed ที่ถูกเขียนในเศษผ้า เมื่อสมาชิกหาได้รับครบทั้งหกส่วนแล้ว เขาหรือเธอจะต้องเดินทางหาพราหมณ์คนที่เจ็ด เพื่อเรียบเรียงข้อความที่กล่าวว่า "Once you're over the hill you pick up speed" เพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากพราหมณ์ ส่วนทางแยกของเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างเติมไฟ (Feed the Fire) กับให้อาหารควาย (Feed the Buffalo) โดยทีมที่เลือกเติมไฟ จะต้องเดินทางไปยังทางลงแม่น้ำศักกา บริเวณที่ใช้ทำงาน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทีมจะต้องทำก้อนพลังงานชีวภาพที่ทำจากมูลของควายจำนวน 50 ก้อนแล้วแปะกับกำแพงเพื่อให้แห้ง ถ้าชาวบ้านรู้สึกพึงพอใจ ทีมจะต้องใช้ก้อนพลังงานชีวภาพแบบแห้งเพื่อจุดไฟใช้ต้มนมสำหรับเด็กๆในละแวกเพื่อรับคำใบ้ต่อไปจากเธอ แต่ถ้าชาวบ้านไม่รู้สึกพึงพอใจ โดยดูจากขนาดและสภาพ เธอจะเขี่ยออกและบอกให้แก้ไขใหม่ให้ถูกต้อง ส่วนทีมที่เลือกให้อาหารควาย จะต้องเดินทางโดยใช้แท็กซี่ทางน้ำไปยังเกาะที่อยู่ภายในแม่น้ำคงคาเพื่อหยิบหญ้าฟาง 2 ฟ่อน ซึ่งทีมจะต้องนำฟ่อนหญ้าฟางไปส่งให้กับ Baje Yadav ที่มีที่อยู่ให้พร้อมมัดมากับหญ้าฟางภายในเมืองพาราณสี ซึ่งเมื่อทีมจะต้องแลกหญ้าฟางฟ่อนกับคำใบ้ต่อไป

สำหรับทางแยกในเลกนี้ ทีมจะต้องเลือกระหว่างการเดินที่ยากลำบาก (Long Hard Walk) กับอาหารที่ง่ายว่องไว (Quick Easy Meal) โดยทีมที่เลือกการเดินที่ยากลำบาก จะต้องเดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ซิกมุนด์ ฟรอยด์ (บ้านเก่าของซิกมุนด์ ฟรอยด์) โดยที่ทีมไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางโดยขับรถยนต์ไป เพื่อนำโซฟาที่ใช้ในการวิเคราะห์จิต เหมือนกับที่เขาเคยใช้ในสมัยนั้นไปส่งยังสำนักงานเก่าของเขา นั่นก็คือห้อง Marietta-Blau-Saal ที่มหาวิทยาลัยเวียนนาซึ่งอยู่ห่างออกไป 1 ไมล์ (1.6 กิโลเมตร) เมื่อทีมขนส่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากเจ้าหน้าที่ภายในห้อง ส่วนทีมที่เลือกอาหารที่ง่ายว่องไว จะต้องเดินทางไปยังชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดภายในกรุงเวียนนา เพื่อนำอาหารประจำประเทศออสเตรีย ได้แก่ชนิกเกทล (ไก่ชุบแป้งทอด) 2 จานพร้อมกับเค้กซาเชอร์ จากนั้นพวกเขาจะต้องถืออาหารเพื่อขึ้นไปยังกระเช้าที่ใช้รับอาหาร ซึ่งพวกเขาจะต้องรับประทานทั้งหมดให้เรียบร้อย โดยมีนักดนตรีบรรเลงเพลงคลาสลิกคลอ ภายในการหมุนของชิงช้าสวรรค์ 1 รอบหรือ 12 นาทีก่อนที่จะได้รับคำใบ้ต่อไป แต่ถ้าหากทีมทำไม่สำเร็จ ทีมจะต้องเริ่มรับประทานใหม่ทั้งหมด ส่วนอุปสรรคของเลกนี้นั้น สมาชิกที่เลือกทำอุปสรรค จะต้องเลือกนักทำความสะอาดเตาผิง แล้วสวมชุดนักทำความสะอาดแบบท้องถิ่น จากนั้นจะต้องขึ้นไปยังบนหลังคาของอาคารเพื่อใช้เชือกที่ผูกลูกตุ้มที่ใช้ทำความสะอาด เพื่อทำความสะอาดหนึ่งในสามเตาผิงจำนวน 3 ครั้ง เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว สมาชิกจะต้องลงมายังห้องโถง เพื่อเปิดประตูที่ใช้ทำความสะอาดที่จะมีฝุ่นพร้อมคำใบ้ต่อไปของทีมรออยู่

สำหรับงานเพิ่มเติมของแกรี่กับมอลลารี่นั้น พวกเขาจะต้องเตรียมส่วนผสมที่ถูกต้องระหว่างแก๊สโซลีนและน้ำมันเพื่อใช้เป็นพลังงานสำหรับจักรยานที่ใช้ในภารกิจอุปสรรค พวกเขาต้องตวงแก๊สโซลีน 25 ส่วนและน้ำมัน 1 ส่วน และต้องพยายามนึกให้ออกว่าส่วนผสมต้องการปริมาณแก๊สโซลีนจำนวน 2 ลิตร ส่วนอุปสรรคของเลกนี้นั้น สมาชิกที่เลือกทำอุปสรรคจะต้องใช้เครื่องมือวัดระยะทางและจักรยานติดเครื่องยนต์ V?loSoleX เพื่อวัดระยะทางความยาวทั้งหมดของประเทศลิกเตนสไตน์ โดยขับขี่จากเมืองชานวัลด์ไปยังบาลเซอร์ส เมื่อถึงบริเวณที่กำหนด ซึ่งมีป้ายธงชาติประเทศอยู่ สมาชิกจะได้พบกับมาร์โค บูเชล นักกีฬาเก่าสกีเทือกเขาในโอลิมปิกฤดูหนาว ที่พวกเขาจะต้องบอกระยะทางหรือเขียนใส่ในกระดาษโปสการ์ดที่พวกเขาขี่มา นั่นก็คือ 22 กิโลเมตร ถ้าพวกเขาบอกได้ถูกต้อง บูเชลจะบอกให้เดินทางไปยังปราสาทกูเตนเบิร์ก ที่ที่พวกเขาจะพบกับเพื่อนร่วมทีมของเขาที่มารออยู่แล้วและอ่านคำใบ้ต่อไป แต่ถ้าพวกเขาบอกผิด พวกเขาจะต้องขี่กลับไปยังเมืองชานวัลด์และเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด และทางแยกของเลกนี้ในเมืองเซอร์แม็ท ทีมจะต้องเลือกระหว่างเนยแข็ง (Cheese) กับเสียงฮืด (Wheeze) ซึ่งทีมที่เลือกเนยแข็ง จะต้องเดินทางไปยังภัตตาคาร Walliserkanne Zermatt ที่พวกเขาจะต้องรับประทานฟงดูว์เนย โดยจิ้มทานกับขนมปังให้หมดทั้งหม้อ เมื่อทีมรับประทานจนหม้อว่างแล้ว เจ้าของภัตตาคารจะมอบหม้อฟงดูว์เปล่าที่มีชื่อของสถานที่ต่อไปบริเวณก้นหม้อ ส่วนทีมที่เลือกเสียงฮืด ทีมจะต้องเดินทางไปยังสถานีรถไฟเซอร์แม็ท เพื่อแต่งตัวเป็นพนักงานถือกระเป๋า และขนส่งกระเป๋าเดินทางในรถเข็นจำนวน 20 ใบไปยังโรงแรมอย่างน้อย 5 แห่งในเมืองเซอร์แม็ท (เช่น Hotel Metropol Spa, Zermatt Alpen hof~ Hotel, Hotel Primavera, Hotel Tschugge, Grand Hotel Zermatterhof, Schlosshotel Tenne, Hotel Astoria, Mont Cervin Palace, Hodel Ambassador) ซึ่งผู้จัดการจะมอบบัตรตอบรับกลับมาให้ เมื่อทีมทำได้สำเร็จแล้ว ทีมจะได้รับคำใบ้ต่อไปจากผู้ขนสัมภาระที่สถานีรถไฟเซอร์แม็ท

In this Leg's Detour, teams chose between two mountain rescue tasks: Search and Rescue. In Search, teams used a set of avalanche beacons to search the Matterhorn for a dummy buried in the snow; they then had to dig out the whole dummy before they could receive their next clue. In Rescue, teams used a special hoisting device to rescue a mountaineer trapped in a crevasse. One team member had to lower his or her teammate into the crevasse; the lowered teammate then had to attach a carabiner to the mountaineer. The teammate at the top then had to raise the pair back to the surface; once at the top, the rescued mountaineer would give them their next clue. In this Leg's Roadblock, one team member made a Travelocity Roaming Gnome out of Swiss chocolate. First, the team member had to decorate a chocolate mold with colored chocolate. Once the mold was properly decorated, the team member had the mold filled with chocolate and then buried it in the snow outside for 30 minutes in order to harden the chocolate. They then removed the gnome from the mold and covered up imperfections with more colored chocolate. Once the head chocolatier approved the gnome, teams would receive a real Roaming Gnome and their next clue.

In this leg's Roadblock, one team member had to participate in a Rio Carnival parade. After putting on special costumes, teams learned the samba and then led a parade of dancers. If the Carnival Princess approved their dance, teams would receive their next clue; if not, they would be sent back to relearn the dance and try again. The Detour was a choice between On the Rocks and On the Beach. In On the Rocks, teams traveled to the Espacio X bar on Copacabana beach where they learned to make caipirinhas. Once they made 100 proper caipirinhas, they would receive their next clue. In On the Beach, teams had to pick up an umbrella loaded with bikinis and a mobile changing station and sell the bikinis to people on the beach. The buyers then had to change into the bikinis in the mobile changing station. Once teams earned R$100 (approximately US$60), they would receive their next clue.

In the first Roadblock of this leg, one team member had to learn how to operate a heavy load forklift to move a boat into drydock without dropping the boat which would destroy it. Once the boat was successfully moved, teams would receive their next clue. In the second Roadblock, one team member had to use a BOBdive submersible to search the lagoon of the Jules' Undersea Lodge for one of several floating treasure chests that contained their next clue, while being surrounded by distracting mermaid divers.


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301